คำพิพากษาฎีกาที่ ๒๕๕๔/๒๕๖๖

ฎีกาตัดสินเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2554/2566
พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด ผู้ร้อง
นางสาว พ.ผู้คัดค้าน
ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรค สอง
พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 56 วรรค ท้าย

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 3630 ตกเป็นของแผ่นดิน และผู้คัดค้านอุทธรณ์โต้แย้งเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 แม้ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้คัดค้านเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 เพราะเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น เนื่องจากผู้คัดค้านมิได้ยื่นคำคัดค้านว่าไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้คัดค้านมาตั้งแต่แรก แต่ตามคำแก้อุทธรณ์ของผู้ร้องได้ยอมรับข้อเท็จจริงแล้วว่า ทรัพย์สินรายการที่ 147 มีชื่อ ธ. เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ใช่ของผู้คัดค้านตามที่ผู้ร้องระบุในบัญชีรายการทรัพย์สิน จึงขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 ให้ถูกต้อง เห็นว่า หากข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำแก้อุทธรณ์ ผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ตกเป็นของแผ่นดิน ปัญหาเรื่องอำนาจในการยื่นคำร้องของผู้ร้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 ตามคำแก้อุทธรณ์ของผู้ร้อง ซึ่งมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องหรือไม่ จึงไม่ชอบด้วย ป.วิ.พ. มาตรา 225 วรรคสอง ประกอบ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 56 วรรคท้าย

___________________________

ผู้ร้องยื่นคำร้องและแก้ไขคำร้องขอให้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินตามบัญชีรายการทรัพย์สินพร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 51

ศาลชั้นต้นนัดไต่สวนและประกาศตามกฎหมายแล้ว

ผู้คัดค้านยื่นคำคัดค้านขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทรัพย์สินรายการที่ 1 ถึงรายการที่ 7 รายการที่ 11 รายการที่ 12 รายการที่ 21 ถึงรายการที่ 23 รายการที่ 28 รายการที่ 45 และรายการที่ 138 ถึงรายการที่ 148 ตามบัญชีรายการทรัพย์สิน พร้อมดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นตกเป็นของแผ่นดินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 51 วรรคหนึ่ง ส่วนทรัพย์สินรายการที่ 8 ถึงรายการที่ 10 รายการที่ 13 ถึงรายการที่ 20 รายการที่ 24 ถึงรายการที่ 27 รายการที่ 29 ถึงรายการที่ 44 และรายการที่ 46 ถึงรายการที่ 137 ให้คืนแก่เจ้าของ ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

ผู้คัดค้านอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ

ผู้คัดค้านฎีกา โดยศาลฎีกาอนุญาตให้ฎีกาเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 1 เฉพาะเงินสด 100,000 บาท และทรัพย์สินรายการที่ 146

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้คัดค้านว่า ทรัพย์สินรายการที่ 1 เฉพาะเงินสด 100,000 บาท และทรัพย์สินรายการที่ 146 เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการทำความผิดมูลฐานในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เห็นว่า ในชั้นไต่สวนพยานผู้คัดค้านมีนางลอง มารดาผู้คัดค้านเบิกความว่า นางสาวน้ำผึ้งส่งเงินมาให้นางลองเดือนละ 10,000 ถึง 30,000 บาท โดยส่งผ่านมาทางบริษัท ว. แต่เอกสารต่าง ๆ เจ้าพนักงานตำรวจยึดไปจากบ้านเลขที่ 259 และตำรวจนำออกไปทิ้ง ภายหลังนางลองเห็นว่าเป็นเศษขยะจึงเผาทิ้งไปหมด ปี 2553 ผู้คัดค้านกลับมาพักที่บ้านเลขที่ 46 ผู้คัดค้านบอกนางลองว่าได้ตกลงซื้อที่ดิน 2 ไร่เศษ จากน้าสาวของนายอภิชาต ตกลงแบ่งกันคนละ 1 ไร่ ซื้อที่ดินราคา 300,000 บาท นางลองทราบว่ามีการโอนที่ดินกันเมื่อปี 2555 แต่ไม่ทราบเลขโฉนด ต่อมาภายหลังผู้คัดค้านบอกนางลองว่านายอภิชาตจะขายที่ดินให้แก่ผู้คัดค้านอีกในราคา 200,000 บาท แต่ผู้คัดค้านไม่มีเงินพอ นางลองจึงสอบถามนางสาวน้ำผึ้งซึ่งสามารถหาเงินมาซื้อได้ว่าสนใจอยากได้ที่ดินแปลงดังกล่าวหรือไม่ นางสาวน้ำผึ้งจึงโอนเงินให้นางลองซื้อที่ดินจากนายอภิชาต แต่พยานผู้คัคค้านไม่มีหลักฐานที่เป็นเอกสารแสดงรายละเอียดวันเวลาและจำนวนเงินที่โอนให้แก่นางลอง ส่วนที่ผู้คัดค้านอ้างว่าเงินที่นำไปซื้อที่ดินเป็นเงินรายได้จากการเป็นแม่บ้านทำความสะอาดดูแลรับเลี้ยงเด็กอ่อนและเงินที่ได้จากค่าเช่าที่ดินไม่ต่ำกว่าเดือนละ 30,000 บาท ก็ขัดแย้งกับคำเบิกความของนางลองที่เบิกความว่าผู้คัดค้านไม่มีเงินพอซื้อที่ดิน พยานผู้คัดค้านจึงเลื่อนลอยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเป็นจริงและไม่สามารถหักล้างข้อสันนิษฐานของกฎหมายตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 51 วรรคสามได้ ที่ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงว่าทรัพย์สินรายการที่ 1 และรายการที่ 146 เป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดมูลฐานในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของผู้คัดค้านฟังไม่ขึ้น

อนึ่ง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 3630 ตกเป็นของแผ่นดิน และผู้คัดค้านอุทธรณ์โต้แย้งเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 แม้ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยอุทธรณ์ของผู้คัดค้านเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 เพราะเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น เนื่องจากผู้คัดค้านมิได้ยื่นคำคัดค้านว่าไม่ใช่ทรัพย์สินของผู้คัดค้านมาตั้งแต่แรก แต่ตามคำแก้อุทธรณ์ของผู้ร้องได้ยอมรับข้อเท็จจริงแล้วว่า ทรัพย์สินรายการที่ 147 มีชื่อนางธนพรเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไม่ใช่ของผู้คัดค้านตามที่ผู้ร้องระบุในบัญชีรายการทรัพย์สิน จึงขอให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ไขเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 ให้ถูกต้อง เห็นว่า หากข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำแก้อุทธรณ์ ผู้ร้องย่อมไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ตกเป็นของแผ่นดิน ปัญหาเรื่องอำนาจในการยื่นคำร้องของผู้ร้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน การที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยเกี่ยวกับทรัพย์สินรายการที่ 147 ตามคำแก้อุทธรณ์ของผู้ร้อง ซึ่งมีประเด็นที่ต้องวินิจฉัยว่าผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องหรือไม่ จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคสอง ประกอบพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 56 วรรคท้าย เมื่อคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลฎีกาแล้ว เพื่อให้การพิจารณาและพิพากษาคดีของศาลเป็นไปด้วยความสะดวกรวดเร็วและเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวโดยไม่ต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาใหม่ เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามคำแก้อุทธรณ์ของผู้ร้องว่าทรัพย์สินรายการที่ 147 ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 3630 ไม่ใช่ของผู้คัดค้าน และปรากฏตามสำเนาโฉนดที่ดินเลขที่ 3630 ท้ายคำแก้อุทธรณ์ ซึ่งมีรายการจดทะเบียนด้านหลังโฉนดที่ดินเลขที่ 3630 ว่านางธนพรเป็นผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2553 จนกระทั่งต่อมาวันที่ 10 เมษายน 2557 นางธนพรได้จดทะเบียนจำนองที่ดินดังกล่าวไว้แก่ธนาคาร อ. เมื่อคำร้องของผู้ร้องไม่ปรากฏว่าผู้ร้องได้ขอให้ทรัพย์สินของนางธนพรตกเป็นของแผ่นดินโดยอ้างว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ตกเป็นของแผ่นดินจึงไม่เข้าเงื่อนไขตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 49 วรรคหนึ่ง ผู้ร้องจึงไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ตกเป็นของแผ่นดินได้ ที่ศาลล่างทั้งสองมีคำสั่งให้ทรัพย์สินรายการที่ 147 ตกเป็นของแผ่นดินจึงเป็นการไม่ชอบอันเกิดจากการผิดหลงของผู้ร้อง ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรแก้ไขให้ถูกต้อง

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้คืนทรัพย์สินรายการที่ 147 ซึ่งเป็นที่ดินโฉนดเลขที่ 3630 แก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้ตกเป็นพับ


จำนวนผู้เข้าชม 572